บทที่ ๔ - ยาเสพย์ติดเป็นอันตราย

         หลายเดือนแล้วที่มานีไม่ได้ไปเที่ยวบ้านชูใจ มานีจึงไป
ขออนุญาตแม่ แม่ให้ไปแต่กำชับว่าต้องถูเรือนให้เสร็จก่อน
พอมานีถูเรือนเสร็จ ฝนก็กระหน่ำลงมา กว่าฝนจะ
หยุดก็เป็นเวลาบ่าย พระอาทิตย์เคลื่อนต่ำลง แลเห็น
เลือนลางอยู่กลางเมฆก้อนหนา มานีจึงรีบไป เจ้าโตนอน
หลับเพลินจึงไม่ได้ตามไปด้วย มานีเห็นต้นข้าวได้น้ำฝน
ชุ่มฉ่ำแลดูเขียวชอุ่มอยู่สองข้างทาง ฝูงควายนอนเกลือก
โคลนอยู่หลายตัว บ้างก็เดินขวักไขว่อยู่ในนา เพราะไม่มี
ใครคอยดูแล มันไล่ขวิดกันจนต้นข้าวล้ม ใบขาดร่วงลง
เกลื่อนกลาด มานีเสียดายต้นข้าว คิดจะคว้าไม้ขว้างไล่มันไป
แต่ไม่กล้าเพราะกลัวมันจะขวิดเอา จึงรีบวิ่งไปโดยเร็ว
         พอถึงหน้าโรงสี มานีเกือบชนชายคนหนึ่งซึ่งยืน
ขวางทางอยู่ ชายนั้นรูปร่างผอมแห้ง หน้าเหลืองซีดเซียว
มีหนวดเครายาวรุงรัง ริมฝีปากและขอบตาเป็นสีเขียว
คล้ำนุ่งผ้าขาด มานีเห็นแล้วรู้สึกตกใจกลัว แต่ชายคนนั้นยิ้ม
พลางเอามือขวา ควานลงไปในถุงกระดาษ หยิบเปลือก
ส้มโอเชื่อมส่งให้มานี มานีกล่าวขอบคุณแต่ไม่รับขนม
รีบวิ่งหนีจนเท้าแพลง ต้องวิ่งกระโผลกกระเผลกไปตาม
ทางเกวียนที่ขรุขระจนถึงบ้านของชูใจ
         เมื่อไปถึงบ้านชูใจ พบชูใจกำลังหัดเย็บ*1กระทงใบตอง
ย่ากำลังสานเสื่อกก อากำลังซ่อมด้ามขวาน ทุกคนเห็น
มานีหน้าซีด ท่าทางตื่นเต้น วิ่งกะโผลกกะเผลกเข้ามา
ก็ตกใจ พากันซักไซ้ว่ามานีเป็นอะไร มานีจึงเล่าเรื่องชาย
รูปร่างผอมแห้งให้ขนม แต่มานีไม่รับ ย่าชมว่ามานีทำถูก
แล้วที่ไม่รับขนมจากคนแปลกหน้า อาพูดเสริมว่าคน
งานที่โรงสีหลายคนติดยาเสพย์ติด ดีแล้วที่มานีไม่รับขนม
ของเขามากิน มิฉะนั้นอาจจะติดยาเสพย์ติดไปด้วย
         ยาเสพย์ติดเป็นอย่างไรคะอามานีถามเสียงสั่น
ใจยังเต้นตึ้กตั้กอยู่ไม่หาย ชูใจสงสารเพื่อนจึงเอื้อมมือมาบีบ
มือของมานี ชูใจรู้สึกว่ามือนั้นเย็นเฉียบ
         ยาชนิดนี้มีหลายประเภทและเป็นอันตรายมาก บางที
เขาก็ปนไว้ในขนม ใครกินเข้าไปจะติด กินมากเข้าก็จะผอมแห้ง
สมองเสื่อม ไม่ได้กินจะคลั่งทุรนทุราย และอาจถึงตายได้
         ทำไมเขาจึงต้องการให้เด็กอย่างมานีติดยาเสพย์ติดคะ
ชูใจถาม
         มันจะหลอกให้ติด พอติดแล้วมันก็บังคับให้ทำอะไร
ให้ มานีก็ต้องทำ มิฉะนั้นมันจะไม่ให้ยา มานีก็อาจตายได้
อาตอบแล้วหันไปเกลาด้ามขวานให้เกลี้ยง
         ย่าสอนว่า ถ้าคนแปลกหน้าให้ของ จงอย่ารับหรือเขา
ชวนไปไหนก็อย่าไปเป็นอันขาด แม้แต่คนที่เรารู้จัก ก็ต้อง
ระวังด้วยเหมือนกัน ถ้าไม่แน่ใจก็อย่าเชื่อ
         ย่าชวนมานีหัดเย็บกระทงกับชูใจ มานีหยิบกระทงที่
ย่าเย็บเป็นตัวอย่างขึ้นพิจารณาดู ก็เห็นว่าฝีมือของย่าดีมาก
ส่วนกระทงที่ชูใจเย็บนั้น บิดเบี้ยว ซ้ำใบตองก็แตก
ชูใจจึงขยำเสียจนยู่ยี่แล้วทำหน้าเบ้กระซิบบอกมานีว่าฉัน
ทำไม่เป็น ย่าก็บังคับให้ทำ แล้วยังกำชับให้ทำสวยเหมือน
ของย่าด้วยซีย่าได้ยินจึงพูดว่าถ้าชูใจฝักใฝ่งาน คิดจะ
ทำให้สวยก็ทำได้ ดูว่าตรงไหนไม่สวยก็แก้ไข แต่นี่พอ
เห็นไม่สวยก็เหวี่ยงทิ้ง แล้วเมื่อไรจะทำได้สวยสักทีย่า
หันมาพูดกับมานีว่ามานีลองทำดูไหมจ๊ะ กระทงหกมุม
อย่างนี้ทำไม่ยากเลย ทำบ่อยเข้าก็ชำนาญ ทำได้สวย อย่า
เอาอย่างชูใจ เขาดีแต่ถือใบตองแกว่งไปแกว่งมามานี
เห็นชูใจหน้าสลดจึงไกล่เกลี่ยว่ามานีจะหัดเย็บกระทงกับ
ชูใจค่ะย่า ชูใจเย็บกระทงจวนจะใช้ได้อยู่แล้วค่ะ
         ย่ายิ้มแล้วว่าดีแล้ว ทำให้สวย จะได้เหมือน
*2โสนน้อยเรือนงาม

View English Translation


View Lesson Notes


View New Vocabulary

Definition